Skip to content

ประเภทของ ETF แบ่งตามประเภท Alternative Type

การแบ่งประเภท ETF ตาม Alternative Type และ Investment Style (Multi-Asset) ช่วยให้นักลงทุนเลือกลงทุนตามกลยุทธ์การลงทุนที่เฉพาะเจาะจง โดยแต่ละประเภทมีความเสี่ยงและกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้:


แบ่งตาม Alternative Type

1. Hedge Fund ETF

  • ความหมาย: ลงทุนในกลยุทธ์ที่เลียนแบบการลงทุนของ Hedge Fund ซึ่งอาจรวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้น พันธบัตร อนุพันธ์ และตราสารหนี้
  • คุณสมบัติ: ช่วยให้เข้าถึงกลยุทธ์ Hedge Fund ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าและมีความโปร่งใสมากกว่า แต่ยังมีความเสี่ยงสูง

2. Inflation Expectations ETF

  • ความหมาย: ลงทุนในสินทรัพย์ที่ปรับตัวตามการคาดการณ์เงินเฟ้อ เช่น ตราสารหนี้ที่มีการปรับเงินต้นตามอัตราเงินเฟ้อ
  • คุณสมบัติ: ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและช่วยรักษามูลค่าการลงทุนเมื่อค่าเงินลดลง

3. Long/Short ETF

  • ความหมาย: ใช้กลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ที่คาดว่าจะเพิ่มมูลค่า (Long) และขายสินทรัพย์ที่คาดว่าจะลดมูลค่า (Short) เพื่อลดความเสี่ยง
  • คุณสมบัติ: ช่วยป้องกันความเสี่ยงในตลาดที่ผันผวน แต่มีความซับซ้อนและต้องการการจัดการเชิงกลยุทธ์

4. Managed Futures ETF

  • ความหมาย: ลงทุนในตลาดล่วงหน้า (Futures) โดยใช้กลยุทธ์การจัดการที่หลากหลาย เช่น การใช้อนุพันธ์ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงาน หรือเงินตรา
  • คุณสมบัติ: ช่วยกระจายความเสี่ยงและให้โอกาสในการเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้า

5. Merger Arbitrage ETF

  • ความหมาย: ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ โดยการซื้อหุ้นของบริษัทที่เป็นเป้าหมายและขายหุ้นของบริษัทที่เข้าซื้อ
  • คุณสมบัติ: ช่วยเก็งกำไรจากความแตกต่างของราคาหุ้นระหว่างบริษัทที่ทำการควบรวม แต่มีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการควบรวม

6. Real Return ETF

  • ความหมาย: ลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนจริง (Real Return) ซึ่งรวมถึงการลงทุนในพันธบัตรที่ปรับอัตราเงินเฟ้อและสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อ
  • คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับป้องกันเงินเฟ้อและรักษามูลค่าการลงทุนในช่วงที่มีความผันผวนด้านเศรษฐกิจ

แบ่งตาม Investment Style (Multi-Asset)

1. Aggressive ETF

  • ความหมาย: เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูง เช่น หุ้นขนาดเล็ก หุ้นในตลาดเกิดใหม่ หรือสินทรัพย์เสี่ยงสูงอื่น ๆ
  • คุณสมบัติ: มีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว แต่มีความเสี่ยงและความผันผวนสูง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง

2. Conservative ETF

  • ความหมาย: ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง เช่น พันธบัตรรัฐบาลและสินทรัพย์ที่ให้รายได้ประจำ
  • คุณสมบัติ: เน้นความปลอดภัยและลดความผันผวน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นความมั่นคงและต้องการลดความเสี่ยง

3. Dynamic ETF

  • ความหมาย: ใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ปรับเปลี่ยนตามสภาพตลาด โดยเน้นการปรับพอร์ตเพื่อให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด
  • คุณสมบัติ: ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความยืดหยุ่น

4. Income-Focused ETF

  • ความหมาย: เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำ เช่น หุ้นปันผลสูงและพันธบัตรที่ให้ดอกเบี้ยสูง
  • คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอและมีความเสี่ยงต่ำ

5. Moderate ETF

  • ความหมาย: ผสมผสานระหว่างการเติบโตและการสร้างรายได้ ด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ทั้งหุ้นและพันธบัตร
  • คุณสมบัติ: เป็นสไตล์การลงทุนที่สมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการการเติบโตปานกลางและความมั่นคง

สรุป

การเลือก ETF ตาม Alternative Type และ Investment Style ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับความต้องการและความเสี่ยงของตนเอง